ทรงผมชาย ง่าย ปรับสไตล์ให้ดูหล่อเท่มากกว่าเดิม
- ทรงผมสั้นตัดรองทรง (Undercut)
ทรงผมทรงนี้เป็นทรงผมที่ฮิตตลอดกาล ไม่ว่าจะผู้ชายวัยไหนก็สามารถตัดทรงนี้ได้ โดยการตัดผมสั้นด้านข้างและด้านหลัง ส่วนด้านบนไว้ยาว แล้วเซ็ทผมด้วยเจลหรือแว็กซ์ให้ดูเป็นทรง
- ทรงผมสั้นด้านข้าง ยาวด้านบน (Side Swept)
ทรงผมทรงนี้เหมาะสำหรับผู้ชายที่มีใบหน้ากลมหรือเหลี่ยม เพราะจะช่วยให้ใบหน้าดูยาวขึ้น โดยการตัดผมสั้นด้านข้างและด้านหลัง ส่วนด้านบนไว้ยาว แล้วเซ็ทผมโดยหวีผมมาด้านข้าง
- ทรงผมสั้นสไตล์พังก์ (Punk)
ทรงผมทรงนี้เหมาะสำหรับผู้ชายที่ชอบความเท่และแหวกแนว โดยการตัดผมสั้นด้านข้างและด้านหลัง ส่วนด้านบนไว้ยาว แล้วเซ็ทผมด้วยเจลหรือแว็กซ์ให้ตั้งชี้ขึ้น
- ทรงผมสั้นสไตล์เด็กเนิร์ด (Nerd)
ทรงผมทรงนี้เหมาะสำหรับผู้ชายที่ชอบความน่ารักและเป็นกันเอง โดยการตัดผมสั้นด้านข้างและด้านหลัง ส่วนด้านบนไว้ยาว แล้วเซ็ทผมด้วยเจลหรือแว็กซ์ให้ดูเป็นทรงเรียบร้อย
- ทรงผมสั้นสไตล์นักกีฬา (Athletes)
ทรงผมทรงนี้เหมาะสำหรับผู้ชายที่ชอบความคล่องตัวและสบายๆ โดยการตัดผมสั้นทั่วทั้งศีรษะ แล้วเซ็ทผมด้วยเจลหรือแว็กซ์ให้ดูเป็นทรงเรียบร้อย# ทรงผมชาย ง่าย ปรับสไตล์ให้ดูหล่อเท่มากกว่าเดิม
สรุปประเด็นหลัก
ทรงผมเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญที่ช่วยเสริมบุคลิกและความมั่นใจของผู้ชายได้เป็นอย่างดี ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำทรงผมชายหล่อๆ เท่ๆ ที่สามารถทำได้เองง่ายๆ ที่บ้าน มาดูกันว่ามีทรงไหนที่เหมาะกับคุณบ้าง
บทนำ
ทรงผมชายในปัจจุบันมีให้เลือกหลากหลายสไตล์ ทั้งแบบยาว แบบสั้น แบบดัด หรือแบบเซ็ต โดยแต่ละทรงก็จะมีเอกลักษณ์และความเหมาะสมที่แตกต่างกันออกไป ผู้ชายแต่ละคนก็มีรูปหน้าและลักษณะโครงสร้างศีรษะที่แตกต่างกัน ดังนั้น ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกทรงผม ควรพิจารณารูปหน้าและลักษณะโครงสร้างศีรษะของตัวเองให้ดีเสียก่อน เพื่อให้ได้ทรงผมที่เหมาะสมและช่วยเสริมบุคลิกให้ดูดีที่สุด
ทรงผมชายที่คุณไม่ควรพลาด
1. ทรงผมสั้นรองทรง
ทรงผมสั้นรองทรงเป็นทรงผมสุดคลาสสิกที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน ด้วยความที่เป็นทรงผมที่เรียบง่าย ดูแลรักษาได้ง่าย และเหมาะกับผู้ชายทุกวัย ทรงผมสั้นรองทรงมีหลายแบบให้เลือก ทั้งแบบสั้นมาก สั้นกลาง หรือสั้นยาว โดยแบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือทรงผมสั้นรองทรงสูง ที่จะตัดผมด้านข้างและด้านหลังให้สั้นเกรียนหรือสั้นรองทรง แล้วปล่อยผมด้านบนให้ยาวประมาณ 2-3 นิ้ว
2. ทรงผมทรง Pompadour
ทรงผมทรง Pompadour เป็นทรงผมที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากทรงผมของพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 แห่งฝรั่งเศส ทรงผมทรงนี้จะตัดผมด้านข้างและด้านหลังให้สั้นเกรียน แล้วปล่อยผมด้านบนให้ยาว แล้วนำมาเซ็ตตั้งขึ้นโดยใช้เจลหรือแว็กซ์ จุดเด่นของทรงผมทรง Pompadour อยู่ที่การเซ็ตผมให้ตั้งตรงขึ้นเป็นช่อสูงบริเวณด้านหน้า ซึ่งช่วยให้ผู้ชายดูมีเสน่ห์และน่าดึงดูดมากยิ่งขึ้น
3. ทรงผมทรง Quiff
ทรงผมทรง Quiff เป็นทรงผมที่คล้ายกับทรงผมทรง Pompadour แต่จะต่างกันตรงที่ทรงผมทรง Quiff จะปล่อยผมด้านบนให้ยาวกว่า แล้วนำมาเซ็ตให้พุ่งไปด้านหน้าแทนที่จะเซ็ตให้ตั้งตรงขึ้นเป็นช่อสูงบริเวณด้านหน้า ทรงผมทรงนี้เหมาะกับผู้ชายที่มีผมหนาและแข็งแรง และต้องการทรงผมที่ดูมีวอลลุ่มและมีชีวิตชีวา
4. ทรงผมทรง Undercut
ทรงผมทรง Undercut เป็นทรงผมที่ตัดผมด้านข้างและด้านหลังให้สั้นเกรียนหรือสั้นรองทรง แล้วปล่อยผมด้านบนให้ยาว ทรงผมทรงนี้ดูเท่และทันสมัย เหมาะกับผู้ชายทุกวัย ทรงผมทรง Undercut สามารถจัดแต่งทรงผมได้หลากหลายแบบ ทั้งแบบหวีเรียบ แบบเซ็ตตั้งขึ้น หรือแบบเซ็ตไปด้านข้าง โดยขึ้นอยู่กับความชอบและสไตล์ของแต่ละคน
5. ทรงผมทรง Slicked Back
ทรงผมทรง Slicked Back เป็นทรงผมที่ตัดผมด้านข้างและด้านหลังให้สั้นเกรียนหรือสั้นรองทรง แล้วปล่อยผมด้านบนให้ยาว แล้วนำมาเซ็ตหวีเรียบไปด้านหลัง โดยใช้เจลหรือแว็กซ์ ทรงผมทรงนี้ดูเรียบหรูและภูมิฐาน เหมาะกับผู้ชายที่ต้องการทรงผมที่ดูเป็นทางการและสุภาพ
บทสรุป
ทรงผมชายที่แนะนำในบทความนี้เป็นเพียงทรงผมยอดนิยมส่วนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งผู้ชายสามารถเลือกทรงผมที่เหมาะกับตัวเองได้โดยพิจารณารูปหน้าและลักษณะโครงสร้างศีรษะของตัวเอง ควบคู่ไปกับความชอบและสไตล์ของตัวเอง นอกจากนี้ ผู้ชายควรดูแลรักษาเส้นผมและหนังศีรษะให้สะอาดและมีสุขภาพดีอยู่เสมอ เพื่อให้ทรงผมดูสวยงามและมีเสน่ห์ยิ่งขึ้น
คำหลักประจำบทความ
- ทรงผมชาย
- ทรงผมสั้นรองทรง
- ทรงผมทรง Pompadour
- ทรงผมทรง Quiff
- ทรงผมทรง Undercut
- ทรงผมทรง Slicked Back